ไอเดียแต่งบ้าน แบบประหยัด
ไอเดียแต่งบ้าน แบบประหยัด การตกแต่งบ้านให้สวย กลายเป็นโจทย์ง่ายไปทันที เมื่อเทียบกับการตกแต่งบ้าน ให้สามารถประหยัด พลังงานได้ในตัว เพราะอย่างหลังจำเป็นต้องคิด และวางแผนให้รอบคอบมากกว่า
โดยต้องคำนึงถึงฟังก์ชัน การใช้งาน คำนึงถึงส่วนรวม รวมถึงค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นใน อนาคตจากบ้านหลังนี้ ที่ทุกคนในครอบครัวต้องอยู่ร่วม ชายคาเดียวกันไปอีกนาน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่าย ที่เกินความจำเป็นในระยะยาว
ไอเดียแต่งบ้าน แบบประหยัด
ที่สำคัญ การตกแต่งบ้าน ที่ช่วยประหยัดพลังงาน ไม่เพียง “ช่วยเรา” ประหยัดค่าใช้จ่ายเท่านั้น แต่ยังถือเป็นการ “ช่วยโลก” อีกด้วย เพราะอย่างที่ทราบ กันดีว่าการใช้ไฟฟ้าสิ้นเปลือง
เป็นสาเหตุหนึ่งในการทำให้เกิด ภาวะโลกร้อนได้นั่นเอง หากคุณเป็นหนึ่งคนที่กำลัง มองหาไอเดียตกแต่งบ้านแบบประหยัดพลังงาน ลองนำสิ่งเหล่านี้ ไปปรับใช้กับบ้าน ของคุณเถิด จะเกิดผล
คำว่า “อยู่แบบพอเพียง” ตามที่พ่อหลวงท่านได้สอนไว้นั้น ไม่ได้แปลว่าต้องอยู่แบบลำบาก หรืออยู่แบบประหยัดที่สุดเท่าที่ประหยัดได้ แต่ท่านหมายถึง ให้เราอยู่ตามรายได้ที่เราหามาได้ มีเยอะก็ใช้เยอะขึ้น มีน้อยก็ใช้น้อยลงหน่อย ถ้าเราทำได้แบบนี้ โดยไม่ต้องเอาตัว เราไปเปรียบเทียบกับใคร เราจะมีความสุขมากขึ้นอย่างแน่นอน…
หนึ่งในวิธี “อยู่แบบพอเพียง” ที่ดีที่สุดคือ การประหยัดพลังงานนั่นเอง หลายๆคนอาจจะคิดว่า การแต่งบ้านให้ประหยัดพลังงานนั้น
จะต้องมีแผงโซล่าเซลล์ หรือว่าใช้กังหันลม มาช่วยผลิตพลังงานทดแทนหรือป่าว ผมจะบอกว่าเทคนิค เหล่านั้นอาจจะดูยากเกินไป ที่ผมมั่นใจว่าถ้าใครลอง เอาไปปรับใช้ บ้านของคุณจะประหยัด พลังงานและค่าไฟได้อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
5 เทคนิคตกแต่งบ้านหายใจได้ ช่วยประหยัดพลังงานไปในตัว
1.ติดพัดลมเพดาน ช่วยระบายอากาศ
ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่า ทำเลของตัวบ้านที่สอดคล้อง กับทิศทางลม เช่น มีลมพัดผ่าน มีหน้าต่างและช่องลมให้อากาศถ่ายเท และไม่มีอาคารหรือสิ่งใดกีดขวางทางลม หรือพูดง่ายๆ ว่าเป็นบ้านที่ “โล่ง โปร่ง สบาย” นั้น
มีส่วนช่วยประหยัดพลังงานอย่างมาก เพราะทำให้ไม่ต้อง เปิดเครื่องปรับอากาศตลอดเวลา ซึ่งเป็นการลดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ ของเครื่องปรับอากาศ และแน่นอนว่าสามารถลด ค่าไฟในแต่ละเดือน ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว
การติด “พัดลมเพดาน” เป็นหนึ่งทางเลือก ที่ช่วยระบายอากาศ ในบ้าน ช่วยผลิตลมธรรมชาติ และลดอุณหภูมิในห้องไปในตัว ทำให้ผู้ที่อยู่ในห้องรู้สึกไม่อัดอัด โดยการเลือกพัดลมเพดานนั้น ต้องเป็นเลือกขนาดที่เหมาะสม กับพื้นที่ห้อง ซึ่งนอกจากจะไม่เปลืองพื้นที่ เท่าพัดลมตั้งพื้นแล้ว ยังช่วยให้ทำความสะอาดบ้านง่ายขึ้น ยิ่งถ้าเลือกแบบที่มีโคมไฟด้วย จะยิ่งทำให้ห้องดูสวยมีระดับขึ้นอีกด้วย
2.ใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน
ไม่ว่าคุณจะมีรสนิยมการตกแต่ง บ้านสไตล์ไหน อยากได้โคมไฟที่อลังการเท่าไร ก็ไม่สำคัญเท่า “หลอดไฟ” ที่คุณเลือกใช้ โดยประเภทหลอดไฟ ที่ช่วยประหยัดไฟและเป็นที่นิยม คือ หลอดไฟ LED ซึ่งต้องเลือกวัตต์และความสว่างให้เหมาะสมกับพื้นที่ และควรเลือกซื้อแบรนด์ ที่มีความน่าเชื่อถือ ได้มาตรฐาน เท่านี้ก็ช่วยลดค่าไฟได้สบายๆ
ยิ่งไปกว่านั้น การเลือกบ้านที่รับ แสงธรรมชาติได้ดี จะช่วยให้คุณไม่ต้อง เสียค่าไฟมากเกินเหตุ โดยยึดหลักรับแสงด้านเหนือ และกันแดดด้าน ตะวันตกและใต้ เพื่อไม่ให้บ้านร้อนเกิน ไปในช่วงกลางวัน
3.ใช้ผ้าม่านในการควบคุมแสง
แน่นอนว่าเราไม่สามารถหลีกเลี่ยง แสงจากดวงอาทิตย์ ในตอนกลางวันได้ ดังนั้น การติด “ผ้าม่านหรือมูลี่” เป็นตัวช่วยที่สำคัญในการกันแดด กันความร้อนจากอากาศด้านนอก
ทั้งยังเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้ คนในบ้านอีกด้วย นอกจากนี้ ม่านยังทำหน้าที่ กรองฝุ่นละอองที่เข้าสู่ตัวบ้าน ช่วยให้เครื่องปรับอากาศ ไม่ต้องทำงานหนัก และลดภาระการทำงาน ของเครื่องดูดฝุ่น เป็นการประหยัดพลังงาน และช่วยลดค่าไฟได้อีกทาง
ทั้งนี้ การติดผ้าม่านที่ เป็นที่นิยม ส่วนใหญ่มักติดผ้าม่าน 2 ชั้น คือ ผ้าม่านโปร่งแสง และผ้าม่านแบบทึบ เพื่อควบคุมแสงสว่างภายในห้อง ในตอนกลางวันได้ และยังสามารถควบคุมแสงได้อีกด้วย ถ้าเลือกติดผ้าม่านที่ปรับได้หลายระดับแบบที่แบ่งออกเป็น 2-3 ช่วง (ช่วงบน ช่วงกลาง และช่วงล่าง)
จะยิ่งช่วยควบคุมแสงสว่างให้เป็นไปตามที่ต้องการ อย่าลืมคำนึงถึงเส้นใยแต่ละชนิดของผ้าม่าน เพราะมีคุณสมบัติในการกันแดดและทนต่อความร้อนที่แตกต่างกัน เพื่อความชัวร์ควร เลือกผ้าชนิดที่กันยูวีไปเลย
4.เลือกใช้ “สีอ่อน” หรือ “สีโทนเย็น”
สีที่ใช้ ก็ส่งผลต่ออุณหภูมิบ้านโดยรวมเช่นกัน จึงควรเลือก “สีโทนอ่อน” เช่น สีขาว สีครีม ในการแต่งบ้าน เพื่อช่วยให้อุณหภูมิภายในห้องเย็น และประหยัดค่าไฟฟ้าได้ดีกว่า เพราะหากใช้สีโทนเข้ม จะทำให้ห้องยิ่งมืด และดูดซับความร้อนจากแสงสว่างจากหลอดไฟ และดวงอาทิตย์ ทำให้บ้านร้อน
แต่หากคุณต้องการแต่งบ้าน ด้วยสีเข้มจริงๆ แนะนำให้เลือกของแต่ง บ้านสีเข้มแทน เพื่อให้ห้องดูไม่น่าเบื่อ หรือถ้าจะเติมสีสันให้ห้อง ควรใช้ “สีโทนเย็น” เช่น สีฟ้า สีเขียว หรือสีเอิร์ธโทน เพราะทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และสบายตามากกว่าสีฉูดฉาด
5.ปลูก “ต้นไม้” เพิ่มร่มเงาให้บ้าน
นอกจากการปลูกต้นไม้ จะช่วยให้บริเวณ บ้านโดยรวมมีความร่มรื่นแล้ว ต้นไม้ยังช่วยลดโลกร้อน ด้วยการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ แถมยังเป็นการเพิ่มพื้นที่ สีเขียวให้คนในครอบครัว ได้นั่งพักผ่อนหย่อนใจยามเย็นได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การเลือกซื้อที่อยู่อาศัย ที่ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม หรือแม้แต่คอนโดฯ ก็ควรเลือกบ้านที่มีสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมที่ดี ซึ่งส่งผลให้คนในบ้านอยู่อย่าง “ร่มเย็นเป็นสุข” เสียก่อน โดยพิจารณาจากบ้านที่ได้มาตรฐาน สามารถรองรับ ความต้องการของคุณได้ เพื่อนำมาปรับปรุงหรือต่อเติม ให้ลงตัวกับไลฟ์สไตล์คุณและคนในครอบครัวยิ่งขึ้น บ้าน 2 ชั้น
เทคนิคจัดบ้านให้น่าอยู่ด้วยงบสุดประหยัด
1.เคลียร์ของไม่จำเป็นออก
ถ้าคุณอยาก จัดบ้านให้ดูน่าอยู่มากขึ้น ก็ต้องเริ่มจากการทำความสะอาดบ้านก่อน เพราะเวลาวางของเกะกะ นอกจากจะทำให้บ้านไม่สวยงามแล้ว ยังเป็นเหตุทำให้เกิดฝุ่นละอองที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณ อย่างเช่น กองหนังสือ เสื้อผ้า หรือข้าวของต่างๆ
หากคุณไม่ได้ใช้งานแล้วก็ทิ้งของที่ไม่จำเป็นหรือเอาไปบริจาคเลยครับ อย่าเสียดายของ! ถือเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่เปลี่ยนบ้านของคุณให้ออกมาดูดีได้
** การทำความสะอาดบ้านที่ดี ควรทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อไม่ให้ฝุ่นสะสมนานเกินไป และง่ายต่อการทำความสะอาดบ้านด้วย ส่วนใครที่ไม่อยากทิ้งของ ก็สามารถจัดเก็บของใส่ในกล่องหรือชั้นวางของให้เป็นระเบียบ
2.เปลี่ยนสีบนผนัง
คงไม่มีวิธีไหนดีไปกว่า “การเลือกทาสีผนังห้องใหม่” แล้วล่ะ ทำง่ายนิดเดียว! เพียงแค่คุณเลือกใช้โทนสีตามที่ต้องการ เช่น ถ้าคุณอยากให้ห้องออกมาโทนสว่าง ก็ควรใช้เป็นสีขาว สีครีม สีฟ้า และสีชมพู เป็นต้น
แต่ถ้าอยากให้ห้องออกมาเป็นสีโทนเข้ม เราควรเลือกใช้สีม่วง สีกรมท่า สีเทา หรือสีน้ำตาลดีกว่า แต่ก็อย่าลืมปรับให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์กันด้วยนะ หลังจากนั้นบ้านของคุณก็จะดูมีมิติมากขึ้น หรือจะลองหาวอลเปเปอร์สวยๆ ราคาประหยัดมาติดแทนกันได้
3.จัดเฟอร์นิเจอร์ใหม่
นอกจากการทำความสะอาดบ้านแล้ว เราควรจัดตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ใหม่กันด้วยครับ Frank แนะนำให้เราตกแต่งของไปในทางเดียวกัน จะทำให้ภายในห้องดูเป็นระเบียบ หรือถ้าใครมีห้องรับแขกขนาดเล็กๆ
ก็ลองตั้งเฟอร์นิเจอร์ให้ห่างจากผนังสักหน่อย หรือใช้กระจกแบบตั้งพื้นมาตกแต่ง เพื่อปรับให้ห้องดูกว้างขึ้น ส่วนบริเวณทางเข้าบ้านก็ควรจัดเฟอร์นิเจอร์ให้นำสายตาเข้าไว้ จะได้ดึงดูดความสนใจด้วย
4.เปลี่ยนแสงไฟภายในบ้าน
เป็นหลักการจัดและตกแต่งบ้านที่สำคัญอย่างหนึ่ง เนื่องจากแสงไฟจะช่วยสร้างบรรยากาศและความรู้สึกคุณได้ ดังนั้น การเลือกใช้แสงไฟโทนร้อน (warm) มันจะทำให้บ้านของคุณดูแพงขึ้น
ด้วยการลองตั้งโคมไฟไว้ข้างโซฟา ข้างเตียงนอน หรือข้างทีวีเท่านั้น แต่ถ้าคุณอยากประหยัดงบสุดๆ อาจจะซื้อเป็นโคมไฟมือสอง หรือเปลี่ยนแค่หลอดไฟมาเพิ่มบรรยากาศในห้องของคุณได้