บ้านสวน

บ้านสวน

บ้านสวน

บ้านสวน ทอดทิ้งความยุ่งเหยิงในเมืองไปซบไออุ่นจากธรรมชาติ

บ้านสวน แม้คุณเป็นคนอีกคนหนึ่งที่เบื่อหน่ายชีวิตรีบ ต้องการเกษียณอายุตนเองทอดทิ้งความโกลาหลในเมืองไปซบไออุ่นจากธรรมชาติ บ้านและก็สวนได้เก็บรวบรวมบ้านงามน่าอยู่ใน บรรยากาศบ้านสวนบ้านป่า ดำเนินชีวิตอย่าง เรียบง่าย ปลูกเรือนข้างหลังกระชับ แล้วก็กระทำการ เกษตรด้านในรอบๆบ้าน เพื่อสามารถ พึ่งตนเองได้ในด้าน การหาวัตถุดิบมาบริโภค และก็ ใช้สอยในครอบครัว ถ้าหากเหลือ ก็ยังสามารถขายหรือแบ่งปัน ให้บุคคลอื่นได้ ซึ่งบางทีอาจเป็นแรงจูงใจ ให้คนที่พอใจกรรมวิธีการ ดำรงชีวิตอย่างพอเพียง ได้มองเป็นไอเดียกัน phuket property

บ้านไม้ใต้ถุนสูงกึ่งกลางสวนมะพร้าว

ท่ามกลางสิ่งแวดล้อม ที่ร่มรื่นของสวนผลไม้ เก่าในลำคลองดำเนิน สบาย บ้านดิบ้านดินน เจ้าของบ้านก็เลยได้ปรับแก้ พื้นที่ด้วยการกลบร่องน้ำเก่านิดหน่อย เพื่อก่อสร้างบ้านอาศัยขนาดกระชับ ด้วยต้องการกลับมา ทำสวนตรงนี้ ลักษณะเป็นบ้านไม้ชูใต้ถุนสูงที่มีสเต็ปไม่สูงมากเท่าไรนัก เนื่องมาจากพื้นที่แถวนี้เคย มีน้ำท่วมถึงมาก่อน รวมทั้งเป็นหนทางที่ดี สำหรับอนาคต ที่ไม่บางทีอาจเดาได้ ภายใต้แนวความคิดการออกแบบ ที่ประสมประสานไม้ เก่าหลากจำพวก เพื่อได้บ้านไม้ข้างหลัง ใหม่ในงบประมาณ ที่ไม่สูงเหลือเกิน พร้อมเปิดโอกาสลม รวมทั้ง ชูใต้ถุนสูงให้ลมพัดผ่าน เพื่อช่วยตัดทอน ความร้อนของอากาศ แล้วก็ ทำให้บ้านเย็นสบาย โดยไม่ต้องอาศัยแอร์เลย

เกษตรผสมในบ้านไม้ใต้ถุนสูง

บ้านไม้ใต้ถุนสูงที่เกิดขึ้นมาจากความมุ่งมั่นสำหรับในการก่อสร้างบ้านเพื่อพักอาศัยอย่างเรียบง่ายพร้อมๆไปกับคิดแผนทำทำการเกษตรแบบเพียงพอในพื้นที่บริเวณบ้าน ตามแนวความคิด ของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 9 โดยจัดแจงแบ่ง พื้นที่สำหรับทำบ่อเก็บกัก น้ำไว้ใช้รวมทั้งเลี้ยงปลาด้วย 30% ปลูกข้าว 30% ปลูกผลไม้ ไม้ยืนต้น พืชไร่ ผัก 30% และก็เป็นที่พักที่อาศัย 10% พร้อมกันไปกับการเลี้ยงไก่ไข่ เพื่อสามารถดำรงชีวิตทุกวันปกติ แบบพึ่งตนเอง ให้ได้มากที่สุด ซึ่งพิสูจน์มาแล้วในตอนการ แพร่ระบาดของวัววิด – 19 ที่ทำให้เจ้าของบ้าน อยู่ได้อย่างไม่เดือด ร้อน มีอาหาร สลับเปลี่ยนแปลงวันแล้ววันเล่า และก็ยังเหลือ แจกเหลือแบ่ง ขายอีกด้วย

บ้านฟาร์มสร้างเองบนแผ่นดินของบรรพบุรุษ

หลังจากที่มีการใช้ชีวิตในพระนครมายาวนานหลายปีแล้วรู้สึกไม่ใช่ เจ้าของบ้านทั้งคู่ก็เลยต้องการกลับมาทำรับประทานบนแผ่นดินของบรรพบุรุษ ซึ่งเป็นบ้านกำเนิดที่ผูกพัน ทั้งยังการได้อยู่กับธรรมชาติก็ทำให้จิตใจนิ่งรวมทั้งเย็นขึ้น ทั้งสองแน่ใจว่าก่อสร้างบ้านเองได้ โดยใช้ไม้สะเดา ไม้ประดู่ ซึ่งฯลฯไม้ที่ปลูกไว้ในที่ดินของตนเอง อีกทั้งมีไม้เก่าและก็ประตูหน้าต่างเก่าที่ซื้อสะสมไว้ ใช้เวลาร่วม 2 ปี บ้านก็เลยเป็นตัวเป็นตนที่มองข้างนอก ราวกับเสร็จแล้ว

แม้กระนั้นก็เบาๆเติมแต่ง แล้วก็ ปรับไปตามการใช้แรงงาน พร้อมไปกับการปลูก ผักไว้กินในครอบครัว มียุ้งสำหรับเ ก็บกินในบ้าน มีหนองน้ำธรรมชาติใช้อุปโภค โดยขุดบ่อแล้วก็ปลูกไผ่รอบๆเป็นเขตแดน ส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นป่ากล้วย อีกส่วนปลูกข้าว นอกเหนือจากนั้นปลูกไม้ยืนต้นไว้ใช้ไม้ แล้วก็แม้ว่าจะมองเป็นบ้านกลางทุ่งที่แสนน่าอยู่ แม้กระนั้นอีกด้านเป็นวิถีเกษตรกรได้แปรไป บริเวณพื้นที่มีการใช้เคมี มีการเผาไร่อ้อย ซึ่งเจ้าของบ้านก็จำเป็นต้องปรับนิสัย และก็ ทำเป็นเพียงแค่สร้างธรรมชาติ ของตนเองเองให้เยอะขึ้นเรื่อยๆ

วิถีอริยสูตร 4 ที่ไร่เอกเขนก

เมื่อพนักงานประจำในจังหวัดกรุงเทพ ออกมาจากคอมฟอร์ตโซน ตกลงใจเริ่มการเดินทางครั้งใหม่ เพื่อปรับปรุงพื้นที่รกร้างริมถนนในอําเภอจอมทองคำ จังหวัดเชียงใหม่ ให้เปลี่ยนเป็น “ไร่เอกเขนก” ที่ปลูกผักแบบอินทรีย์ โดยก้มนําพระราชดํารัสของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาประยุกต์ กำเนิดเป็นอริยสูตร 4เป็น พร้อม เพียงพอ มานะ และก็ปรับปรุง ด้านในไร่มีตึกที่วางแบบเป็นบ้านดินสีคราม เว้นเสียแต่เปิดเป็นคาเฟ่แล้ว รีวิวบ้านภูเก็ต

ยังเป็นที่อยู่อาศัยของเจ้าของบ้าน ด้วยความเป็นบ้านดินก็เลยทําให้อากาศด้านในภายออกจะคงเดิมไม่ร้อนมากหรือเย็นจัด ก็เลยให้ความรู้ความเข้าใจสึกสบายๆในส่วนของไร่ปลูกผักนั้น ผู้ครอบครอง บ้านได้ให้ราษฎรที่มีทักษะ ในแต่ละด้านมา ช่วยเลี้ยงดู ซึ่งเรียกว่า “บิดาผัก-แม่ผัก” โดยตรงนี้เรียกผัก ปราศจากพิษว่า “ผักปราศจากกิเลส” ด้วยเหตุว่าไม่ปลูก นอกฤดูกาล ไม่มีสารรีบผลิตผล ไม่เอารัดเอาเปรียบสภาพแวดล้อม ก็เลยทําให้ผักที่ได้มีความงดงามตามธรรมชาติ พร้อมที่จะจัดส่งตรงถึงเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์รวมทั้งห้องอาหารในจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งมีจําหน่ายที่ไร่ด้วย

ตัวตึกบ้านดินสีคราม นอกเหนือจากที่จะเป็นคาเฟ่แล้ว ข้างในยังเป็นที่อยู่อาศัย ของคุณเอก รวมทั้ง คุณวรรณะอีกด้วย แบ่งแยกพื้นที่ใช้สอยเท่าที่จําเป็น มีห้องนอน ขนาดกระชับ ที่ดีไซน์ ไว้อย่างพอดี มีสิ่งอํานวยความสบาย เท่าที่จําเป็น แล้วก็เพราะเหตุว่าตัวตึกเป็นบ้านดิน ก็เลยทําให้อากาศภาย ในบ้านค่อน

ข้างคงเดิมไม่ร้อนมาก หรือ เย็นจัด ทําให้รู้สึกสบายในเวลาที่อยู่ด้านในตึก Phi Phi Island แล้วก็อีกหนึ่งพื้นที่ที่ได้รับการขยายเพิ่มเติมออกไปจากบ้านดินเป็น หอพักสําหรับสหายๆที่ชอบแวะเวียนมาหาเป็นประจําเพราะว่ารู้สึกพอใจ จนถึงต้องการจะขอพักที่ไร่เอกเขนกด้วยสัก 2-3 วัน

ข้างในสุดเป็นส่วน “ธรรมะ” ในอนาคตจะทําห้องพระสําหรับนั่งสงบจิตสงบใจ โดยใช้เป็นที่ติดตั้งสมเด็จพระพุฒาจารย์โตพระพรหมรังสี และก็ พุทธรูปสลักจากตอไม้ที่เจอในไร่ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปภายใน “อีกทั้ง 3 ส่วนในไร่เอกเขนกต่างเชื่อมโยงกัน ส่วนปกติทําให้เกิดความงดงามเสมือนดอกไม้ villa for party มองเป็นมิตรเข้าถึงได้ง่าย ส่วนธรรมชาติเป็นเสมือนลําต้นที่จะส่งขึ้นไปให้มากที่สุด แข็งแรงที่สุด ส่วนธรรมะจะเป็นความสงบที่วางอยู่ข้างในที่ลึกที่สุดซึ่งจำต้องเข้าไปด้วยความมุ่งมั่น ในวันนี้อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมี 100 ผู้ที่ผ่านเข้ามา แม้กระนั้นบางครั้งอาจจะเหลือไม่กี่ผู้ที่รู้เรื่องรวมทั้งไปถึงโซนธรรมะได้”

บ้านต้นเต๊า บ้านไม่กลัวน้ำท่วม

บ้านที่นำเอาเอกลักษณ์ของบ้านในพื้นที่บ้านบัว จังหวัดพะเยากับลักษณะของหลองข้าวซึ่งเป็นตึกเก็บข้าวเปลือกมาใช้ แม้กระนั้นเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์รวมทั้งสีสันให้เป็นองค์ประกอบเหล็กผสมปูน รวมทั้งย้ำสีขาวเพื่อความสะอาดตา รวมถึงยังผสมการใช้แรงงานในแบบวิถีชีวิตเดี๋ยวนี้กับลักษณะการนำไปใช้งานใต้ถุนแล้วก็นอกชานอย่างโบราณกาล โดยเว้นแต่ก่อสร้างบ้านไว้อยู่เองแล้ว ยังทำไว้สำหรับรองรับแขกที่มาพักแบบโฮมสเตย์ บ้าน

และเปิดเป็นคาเฟ่เล็กๆด้วย ความน่าดึงดูดใจของบ้านข้างหลังนี้เป็นการยินยอมรับที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติ แม้ว่าจะเป็นหลักที่น้ำหลากในหน้าน้ำ เนื่องจากอยู่ชิดกับลำคลอง ของหมู่บ้าน แม้กระนั้นด้วยการออกแบบที่ รู้เรื่องในบริบท ทำให้บ้านข้างหลัง นี้สามารถอยู่กับน้ำหลากได้โดยไม่คือปัญหา บ้านจัดสรรภูเก็ต

เพราะว่าเพียงแต่ปิดคาเฟ่ด้านล่าง แล้วก็ ย้ายของขึ้นสู่ข้างบน เพื่อน้ำสามารถ ผ่านใต้ถุนบ้านไปได้ แล้วก็แปรไปเดินทางโดยใช้สะพาน เชื่อมชั้นสองของบ้านออก สู่ถนนหนทางแทน จนกระทั่งหน้าน้ำจะหมด ส่วนรอบๆรอบๆบ้านก็ทำเป็นสวนครัวและก็ทดสอบ ปลูกข้าวไว้กิน เองอีกด้วย

บ้านข้างหลังนี้ แบ่งได้เรือน 2 ข้างหลัง เรือนข้างหลัง เล็กที่มีใต้ถุนทำ เป็นคาเฟ่ ส่วนข้างบนเป็นส่วน อาศัยของป๊ะป๋า และก็ แม่คุณเกด มีระเบียงที่ทอด เป็นสะพานออก ไปยังถนนใหญ่ และก็ สามารถเดินเชื่อมไปยัง เรือนข้างหลังใหญ่ ซึ่งเป็นห้องนอน ของคุณปอ และก็ คุณเกด

ยิ่งกว่านั้นเรือนข้างหลังใหญ่ยังมีห้องแม่ของคุณปอรวมทั้งห้องนอนแขก ซึ่งทำไว้สำหรับรองรับแขกที่มาพักที่โฮมสเตย์ หอพักมีอยู่ 2 ห้อง โดยที่อีกห้องอยู่ในตำแหน่งเดียวกันใต้ถุนบ้าน ส่วนรอบๆรอบๆบ้านทำเป็นสวนครัวแล้วก็ทดสอบปลูกข้าวไว้กินเอง

ความน่าดึงดูดใจของบ้านต้นเต๊าเป็นการยินยอมรับที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติ แม้ว่าจะเป็นหลักที่ที่อุทกภัยปกติในหน้าน้ำ ด้วยเหตุว่าอยู่ใกล้กับลำคลองของหมู่บ้าน แม้กระนั้นด้วยการออกแบบที่รู้เรื่องในบริบท ทำให้บ้านข้างหลังนี้สามารถอยู่กับน้ำหลากได้โดยไม่คือปัญหา เนื่องจากว่าแค่เพียงปิดคาเฟ่และก็ย้ายของขึ้นสู่ข้างบนเพื่อน้ำสามารถผ่านใต้ถุนบ้านไปได้

และก็แปรไปเดินทางโดยใช้ สะพานเชื่อมชั้น สองของบ้าน ออกสู่ถนนหนทางแทน ตราบจนกระทั่งหน้าน้ำ จะหมด บ้านข้างหลังนี้ก็เลยเป็นเหมือนผู้แทนของธรรมชาติที่ผู้อาศัยรวมทั้งนักเดินทางที่มาพักจะสัมผัสได้

บทความเพิ่มเติม > รีวิวบ้าน phuket property รีวิวบ้าน ขายวิลล่าภูเก็ต ขายบ้านภูเก็ต ซื้อบ้าน ตกแต่งบ้าน วิลล่าราคาถูกภูเก็ต วิลล่าภูเก็ตที่ขาย สี ผ้าปูที่นอน

บทความอื่นที่น่าสนใจ : บ้านมือ 2 ภูเก็ต สนามบินภูเก็ต แบบบ้านริมทะเล บ้านเช่าราคาถูก ขายวิลล่า ภูเก็ต จุดชมวิว ภูเก็ต