family3

รอบรู้เรื่องบ้าน

รอบรู้เรื่องบ้าน By Home family

สำหรับใครที่มีที่ดินอยู่แล้ว รวมทั้งอยู่ในขั้นตอนกำลังตัดสินใจ จะสร้างบ้าน แต่ว่ายังไม่รู้ว่าจะเลือก บ้านชั้นเดี่ยว หรือบ้านสองชั้นดี ลองพิจารณาจากปัจจัยรวมทั้งความเหมาะสม ในด้านต่างๆ บ้าน ต่อไปนี้ลองปรึกษาเรา รอบรู้เรื่องบ้าน เพื่อช่วยในการตัดสินใจ

home family2

1. ความต้องการ/ฟังก์ชั่น และก็ขนาดพื้นที่ใช้สอย

การกำหนดสิ่งที่มีความต้องการ ใช้งานในบ้าน หรือฟังก์ชั่นของบ้าน จัดสเปคบ้าน จะส่งผลต่อขนาดพื้นที่ใช้สอย ปริมาณชั้นและก็รูปแบบของบ้าน ดังเช่น ปลูกบ้านหอพักสามชั้น เพื่อตระเตรียมขยายครอบครัว ซึ่งมีความต้องการพิเศษ อาทิเช่น ห้องสารพัดประโยชน์ ห้องทำงาน อื่นๆอีกมากมาย, 

family3

ก่อสร้างบ้านใหม่สองชั้น โดยจัดแจงพื้นที่สำหรับ บิดามารดาอาศัย (คนชรา) ในด้านล่าง,The Nest By Wallaya Villas ก่อสร้างบ้านแบบชั้นเดี่ยว เพื่ออาศัยในวัยแก่, ก่อสร้างบ้าน 4 ชั้น เพื่อทำธุรกิจพร้อมกันด้วย อย่างเช่น ที่ทำการ ค๊อฟฟี่ช็อป ห้องอาหาร หรือปลดปล่อยเช่าเล็กน้อย ฯลฯ ฉะนั้น เจ้าของบ้านควรจะทำรายการ ความอยากได้ใช้สอยพื้นที่ ของบ้านในส่วนต่างๆ ตระเตรียมไว้ เพื่อหารือนักออกแบบให้ออกแบบตรงตาม ความจำเป็น หรือเลือกแบบบ้านที่ใกล้เคียง กับสิ่งที่ต้องการสูงที่สุด

home

สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกในบ้านน้อยราว 1 – 3 คน บางทีอาจเลือกบ้านชั้นเดี่ยวได้ โครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น แม้มิได้มีความต้องการพื้นที่ใช้สอยมากเท่าไรนัก นอกเหนือจากนั้น บ้านชั้นเดี่ยวยังเหมาะสมกับผู้สูงวัย หรือผู้ทุพพลภาพ โดยการทำเป็นหลักระดับเดียว ไม่มีขั้นบันได เพื่อช่วยลดการเสี่ยงที่บางที อาจเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

ส่วนครอบครัว ที่มีสมาชิกหลายๆ คน หรือบ้านที่ทำธุรกิจพร้อมกันไปด้วย แบบบ้านสองชั้น หรือหลายชั้น จะตอบปัญหาการใช้แรงงานมากยิ่งกว่า เนื่องจากสามารถดีไซน์ แล้วก็จัดแบ่งพื้นที่ใช้สอยให้สมควร พอเพียงต่อการใช้แรงงาน ดังเช่น มีสวนข้างนอกสำหรับเด็กหรือสัตว์เลี้ยง มีบ่อปลาคาร์พ มีพื้นที่หยุดรถยนต์ได้หลายคัน วางแบบพื้นที่รวมทั้ง ห้องนอน และ ก็สุขา สำหรับผู้สูงวัยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง หรือแบ่งแยกพื้นที่ ด้านล่างเป็นส่วนที่บุคคลภายนอก เข้าใช้งานได้เป็นร้านค้า หรือที่ทำการ (Public Space) ส่วนข้างบนทำเป็นพื้นที่พักอาศัยส่วนตัว (Private Space) ฯลฯ

นอกนั้น ความพอใจเรื่องสเปซ (Space) ก็เป็นอีกต้นเหตุสำหรับ ซื้อบ้านหลังแรก การเลือกแบบบ้าน ด้วยเหมือนกัน สำหรับบ้านชั้นเดี่ยว สามารถวางแบบให้มีห้องโถงสูง อีกทั้งข้างหลัง (ฝ้าเพดานยกสูง) เพื่อช่วยปรับห้องมองโปร่งสบายได้ โดยยังกลมกลืนกับที่พักรอบๆ ส่วนบ้านสองชั้นสามารถเพิ่มลูกเล่น ให้พื้นที่พิเศษได้ ดังเช่นว่า ทำห้องโถง หรือห้องรับแขกแบบดับเบิ้ลสเปซ (Double Space) หรือแม้กระทั้งการเล่นระดับพื้นสูงต่ำในบ้าน เพื่อแบ่งแยกพื้นที่ส่วนต่างๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน

2. ขนาดที่ดิน และก็ทำเล

ขนาดที่ดินก็ถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญ สำหรับเพื่อการตกลงใจเลือก บ้านแบบชั้นเดี่ยว หรือแบบบ้านสองชั้น เนื่องมาจากการผลิตบ้านก็มีข้อบังคับควบคุมซึ่งจะต้องคิดถึงระยะร่นแนวตึก ฉะนั้นเมื่อมีที่ดินพร้อมปลูกเรือนแล้ว เจ้าของบ้านจะรู้ขนาดพื้นที่ซึ่งสามารถก่อสร้างบ้านได้เมื่อหักลบระยะร่นออกไป แล้วก็เลยตรึกตรอง ความเหมาะสมสำหรับ การก่อสร้างบ้านให้เหมาะสม กับขนาดที่ดิน อย่างเช่น ถ้าเกิดมีที่ดินขนาดใหญ่

รอบรู้เรื่องบ้าน

จะสามารถก่อสร้างบ้านแบบชั้นเดี่ยว หรือสองชั้นก็ได้ตามฟังก์ชั่นการใช้แรงงาน แม้กระนั้นถ้าหากมีที่ดินขนาดเล็กซึ่ง เมื่อหักลบระยะร่นออกแล้ว การผลิตบ้านสองชั้น หรือมากยิ่งกว่าสองชั้น นั้นบางทีอาจสมควรกว่า เนื่องจากว่าสามารถ เพิ่มขนาดพื้นที่ใช้สอยในทางสูงได้ โดยไม่สมควรก่อสร้างบ้าน ที่มีความสูงเกินที่ ข้อบังคับระบุตาม แต่ละพื้นที่ด้วยเหมือนกัน

รอบรู้เรื่องบ้าน

ด้านทำเล ควรจะมองบริบทโดยรวมว่าที่ดินอยู่ภายใน เขตพื้นที่แบบใด ดังเช่นว่า ที่ดินอยู่ในเขตชุมชนเมือง ที่มีตึกสูงรายล้อม อยู่ในหมู่บ้านจัดสรร อยู่ใกล้แหล่งน้ำ หรือมีที่ดินอยู่ในเขตที่เสี่ยงอุทกภัย บริบทรวมทั้งภาวะ:ห้อมล้อมพวกนี้ล้วน เป็นต้นสายปลายเหตุ ที่มีผลต่อการออกแบบบ้าน รูปแบบของบ้านที่จะสร้าง ก็เลยจำต้องพินิจพิเคราะห์ ด้านสถานที่ร่วมด้วยตามสมควร เป็นต้นว่า ก่อสร้างบ้านแบบตึกสามชั้นในเขตชุมชน เมืองเนื่องมาจากพื้นที่ขนาดเล็ก ก่อสร้างบ้านลำพังสองชั้น ในหมู่บ้านจัดสรร หรือก่อสร้างบ้านใต้ถุนสูงในเขตพื้นที่ ที่มีการเสี่ยงอุทกภัย ฯลฯ

รอบรู้เรื่องบ้าน

3. งบประมาณการก่อสร้าง

งบประมาณเป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ เป็นตัวหมายกำหนดการก่อสร้างบ้าน เนื่องจากว่าถ้าหากเปรียบ ระหว่างบ้านชั้นเดี่ยวและก็บ้านสองชั้นที่มีพื้นที่ใช้สอยเสมอกันแล้ว บ้านสองชั้นจะราคาแพงก่อสร้างที่ต่ำกว่า ด้วยเหตุว่าไม่ต้องลงเสาเข็มในพื้นที่รอบๆ กว้าง แล้วก็ขนาดผืนหลังคาขนาดเล็กกว่าบ้านชั้นเดี่ยว อย่างไรก็แล้วแต่ ราคาการก่อสร้างก็ขึ้นกับการเลือกใช้อุปกรณ์ ก่อสร้างแล้วก็ค่าใช้สอยอื่นๆร่วมด้วย ควรศึกษาค้นคว้าข้อมูล หรือขอคำแนะนำคนเขียนแบบ ก่อนที่จะทำการตัดสินใจ

4 วิธี เพิ่มคุณภาพชีวิตด้วยการทำให้ “บ้านเขียว”

หลายคนคงเคยได้ยินเรื่องปัญหาสิ่งแวดล้อม ภัยธรรมชาติ และปัญหาต่างๆ เกิดขึ้นมากมายในปัจจุบัน ทำให้หลายฝ่ายไม่ว่าจะเป็นธรรมชาติหรือมนุษย์เอง ต่างได้รับผลกระทบไม่น้อยไปกว่ากัน ด้วยเหตุนี้ทำให้สังคมเริ่มให้ความสนใจที่จะเข้ามารับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงทำให้เกิดการออกแบบ “อาคารประหยัดพลังงาน” หรือ “อาคารเขียว”

เพื่อช่วยประหยัดทรัพยากรพลังงาน และลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น เรียกได้ว่าเป็นอาคารที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ทั้งในขณะที่ก่อสร้างและระหว่างการใช้งาน แต่ถ้าเราจะพูดถึงอาคารเขียว อาจไกลตัวไป จริงๆ แล้วบ้านที่เราอยู่อาศัย ก็สามารถออกแบบให้เป็นอาคารเขียวได้เหมือนกัน ดังนั้นเราจึงมีไอเดียการทำ “บ้านเขียว” เพื่อให้คุณได้เริ่มต้นเป็นส่วนเล็กๆ ที่ช่วยทำให้สังคมมีคุณภาพมากขึ้น

ลักษณะของอาคาร/บ้านเขียว

  • เป็นอาคารที่ประหยัดพลังงานและน้ำ
  • ใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ให้ความสำคัญต่อสุขภาพ และ ความสบายของผู้ใช้อาคาร
  • พยายามทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ให้น้อยที่สุด

ไอเดียทำให้ “บ้านเขียว”

  • เขียวโดยธรรมชาติ

อยากให้บ้านเขียว เริ่มได้ง่ายๆ ด้วยการปลูกต้นไม้ เพราะต้นไม้บางชนิดสามารถดูดซับสารพิษ กักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ช่วยทำให้อากาศสะอาดขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดความร้อน ทำให้อุณหภูมิบริเวณบ้านลดลง ช่วยให้บ้านเย็นสบายขึ้นแถมยังทำให้บ้านร่มรื่น ทัศนียภาพของบ้านก็ดีขึ้นอีกด้วย

  • เขียวโดยการประหยัดน้ำ

การประหยัดน้ำสามารถทำได้ เช่นเดียวกับการประหยัดพลังงาน โดยใช้เท่าที่จำเป็น แต่ในขณะเดียวกัน หากมีการรั่วไหลของน้ำ ก็อาจทำให้เสียทรัพยากรน้ำโดยใช่เหตุ แถมยังทำให้เสียเงินค่าน้ำ เพิ่มขึ้นอีกด้วย เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ ดังกล่าว เราควรรู้จักตรวจสอบท่อ และ อุปกรณ์ประปาภายในบ้าน จะได้แก้ไขได้ทันท่วงที

  • เขียวโดยการประหยัดพลังงาน

วิธีการประหยัดพลังงานที่ดี คือการเลือกใช้พลังงานอย่างพอเหมาะ ไม่ฟุ่มเฟือยจนเกินไป อย่างการเลือกกินไฟมากขึ้น การจัดบ้านให้โปร่ง จะช่วยให้แสงภายนอกส่อง เข้ามาในบ้านได้ ทำให้ไม่ต้องเปิดไฟในตอนกลางวัน และการเลือกเปลี่ยนมาใช้หลอดประหยัดไฟก็จะยิ่งช่วยประหยัดพลังงานได้เพิ่มขึ้น ที่สำคัญหากไม่ได้ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ควรปิดสวิตซ์ ให้เรียบร้อย รวมถึงถอดปลั๊กไฟเมื่อไม่ได้อยู่บ้าน จะได้ช่วยป้องกันการรั่วไหลของไฟได้อีกด้วย

  • เขียวโดยการเลือกใช้วัสดุและผลิตภัณฑ์ที่ได้รับฉลากเขียว

นอกเหนือจากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงแล้ว เราควรคำนึงถึงความปลอดภัย และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน คุณทราบไหมว่าการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ฉลากเขียว ที่มีส่วนช่วยผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมสีเขียว ที่มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ท่อเอสซีจี รุ่นฉลากเขียว เป็นผลิตภัณฑ์ท่อ “รายแรก” ในประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐานฉลากเขียว จึงมั่นใจได้ในคุณภาพและบริการ ที่คำนึงถึงความปลอดภัยในการใช้งาน อีกทั้งมีส่วนช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่สังคม