หมวดหมู่: ตกเเต่งภายใน

ตกเเต่งภายใน

ตกเเต่งภายใน  ไอเดีย จัดโต๊ะอ่านหนังสือ 1.  หา Referenc นอกจากความยากง่าย ของเนื้อหาบทเรียนแล้ว สภาพแวดล้อม รอบตัวเรายังส่งผลต่อการเรียนรู้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเด็กวัยเรียนอย่างพวกเรา ซึ่งมีงานวิจัยที่กล่าวว่า พื้นที่ที่สะดวกสบาย คุ้นเคยและไม่มีสิ่งรบกวนนั้นส่งผลต่อการรับข้อมูลและการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น เราควรเริ่มจาก การจัดพื้นที่อ่านหนังสือให้รู้สึกว่า “นี่แหละที่ของเรา” ด้วยการจัดโต๊ะตามสไตล์ที่เราชอบ ถ้านึกภาพไม่ออกอาจจะลองหา Reference ตามแหล่งต่าง ๆ เช่น Pinterest  Instagram หรือเริ่มง่าย ๆ ด้วยการเสิร์ชในช่องค้นหาของ Google เพื่อให้เราเห็นภาพทั้งโทนสี วัสดุต่าง ๆ แต่ไม่จำเป็น ต้องซื้อตามแบบนั้นเป๊ะ ๆ นะ แค่ลองจัดวางของชิ้นเดิมในมุมใหม่ หรือ หาวัสดุในห้องมา D.I.Y. ให้ใกล้เคียงกับ Reference ที่ชอบก็ช่วยประหยัดงบ แถม เก๋ไม่ซ้ำใครเลยล่ะ รีวิวบ้าน

ไอเดีย จัดโต๊ะอ่านหนังสือ

ตกเเต่งภายใน ไอเดีย จัดโต๊ะอ่านหนังสือ ในห้องนอนยังไงให้น่าอ่าน มาดูกันเลย

ไอเดีย จัดโต๊ะอ่านหนังสือ 1.  หา Referenc นอกจากความยากง่าย ของเนื้อหาบทเรียนแล้ว สภาพแวดล้อม รอบตัวเรายังส่งผลต่อการเรียนรู้เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะเด็กวัยเรียนอย่างพวกเรา ซึ่งมีงานวิจัยที่กล่าวว่า พื้นที่ที่สะดวกสบาย คุ้นเคยและไม่มีสิ่งรบกวนนั้นส่งผลต่อการรับข้อมูลและการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ ดังนั้น เราควรเริ่มจาก การจัดพื้นที่อ่านหนังสือให้รู้สึกว่า “นี่แหละที่ของเรา” ด้วยการจัดโต๊ะตามสไตล์ที่เราชอบ ถ้านึกภาพไม่ออกอาจจะลองหา Reference ตามแหล่งต่าง ๆ เช่น Pinterest  Instagram หรือเริ่มง่าย ๆ ด้วยการเสิร์ชในช่องค้นหาของ Google เพื่อให้เราเห็นภาพทั้งโทนสี วัสดุต่าง ๆ แต่ไม่จำเป็น ต้องซื้อตามแบบนั้นเป๊ะ ๆ นะ แค่ลองจัดวางของชิ้นเดิมในมุมใหม่ หรือ หาวัสดุในห้องมา D.I.Y. ให้ใกล้เคียงกับ Reference ที่ชอบก็ช่วยประหยัดงบ แถม เก๋ไม่ซ้ำใครเลยล่ะ รีวิวบ้าน

2. จัดแสง เลือกโคมไฟ

รู้ไหม ว่าแสงไฟก็มีผลต่อสมาธิเวลาเราอ่านหนังสือเหมือนกันนะ ซึ่งมีงานวิจัยที่กล่าวว่า แสงสีเหลือง อบอุ่นเหมือนในร้านอาหาร หรือในโรงแรมนั้น ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย จึงไม่น่าแปลกใจ ที่แสงสีนี้ชวนให้เราอยากจะวางงานแล้ว ทิ้งตัวลงบนที่นอน หรือ ดื่มด่ำกับรสชาติอาหารมากกว่าการใช้สมาธิอ่านหนังสือ โคมไฟสีนี้เลยเหมาะกับวันสบาย ๆ หรืองานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ เพราะ ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย พร้อมที่จะคิดไอเดียใหม่ ๆ

จัดแสงโคมไฟ

ส่วนแสงที่ขยับขึ้นมาโทนเย็นอีกสักหน่อย ซึ่งเป็นแบบหลอดไฟทั่วไป (Cool White) นั้นเหมาะกับการอ่านหนังสือ หรือ ทำการบ้านในวันปกติ และ แสงสว่างโทนเย็นขึ้นมาหน่อย จะช่วยให้เราโฟกัสกับเรื่องที่ต้องใช้สมาธิ หรือเรื่องยาก ๆ ที่ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ ได้ดีขึ้น  ดังนั้น ถ้าเพื่อน ๆ กำลังจะอ่านหนังสือ หรือ ทำการบ้านในห้องนอน ก็สามารถเลือกเปิดไฟในห้อง เปิดโคมไฟ หรือเลือกโทนสีของแสงให้สอดคล้อ งกับพฤติกรรมส่วนใหญ่ของเราได้ เช่น บางคนใช้เวลาอ่านหนังสือ ในห้องสมุด หรือร้ านกาแฟมากกว่า ที่บ้าน ก็อาจจะใช้โคมไฟที่มีแสงโทนอุ่น ๆ เหมาะสำหรับการกลับมาพักผ่อน หรือ ทบทวนบทเรียนกรุบกริบก่อนนอน เป็นต้น นอกจากนี้สิ่งสำคัญที่เพื่อน ๆ ต้องไม่ลืม คือการจัดแสงสว่าง ให้เพียงพอ และจัดตำแหน่งโคมไฟไว้ตรงข้าม กับมือที่เราถนัด เพื่อไม่ให้เกิดเงาบังขณะที่เราทำงานจนเสียสายตาได้

3. ตกแต่งภายใน โทนสีเป็นมากกว่าความสวย

สำหรับสีสัน ของอุปกรณ์บนโต๊ะอ่านหนังสือ ก็ส่งผล ต่อสมาธิในการอ่านเหมือนกันนะ ซึ่ง Dr. Robert Gerard ได้ศึกษาเกี่ยวกับจิตวิทยาของสีกับการเรียนรู้ พบว่า แต่ละสีมีความยาวคลื่น (wavelength) ที่เฉพาะเจาะจง ซึ่งส่งผลต่อการทำงาน ของร่างกายและสมองที่แตกต่างกัน โดยสีที่เหมาะกับการเรียนรู้ มีดังนี้

1. สีฟ้าเหมาะสำหรับการทำความเข้าใจเรื่องยาก ๆ เพราะช่วยให้เรารู้สึกสงบ ผ่อนคลายในตอนที่ต้องใช้ความคิดเยอะ ๆ หรือแก้ปัญหาที่ ซับซ้อน

 จัดโต๊ะอ่านหนังสือ

ไอเดีย จัดโต๊ะอ่านหนังสือ

2. สีเขียว: ช่วยทำให้เราโฟกัสสิ่งต่าง ๆ ได้ดี มีสมาธิจดจ่อกับสิ่งต่าง ๆ ได้นานขึ้น ตรงข้าม กับ สีแดงที่กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกตื่นเต้น

3. สีส้ม:  ช่วยให้อารมณ์ดี และ มีพลังพร้อมเรียนรู้ แต่เราแนะนำว่าให้เป็นสีส้มอ่อน ๆ หรือไม่ก็เลือกเป็นองค์ประกอบเล็ก ๆ ที่วางบนโต๊ะหนังสือ ให้เรามองไปแล้วรู้สึกดี เพราะถ้าสีส้มจัดหรือเยอะเกินไป คงชวนให้เรารู้สึกแสบตา หรือ รู้สึกอะเลิร์ตมากกว่าจะมีสมาธิ

ไอเดีย จัดโต๊ะอ่านหนังสือ

ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนไม่ได้มีสีที่ชอบเป็นพิเศษ หรือ อยากจะลองปรับโทนสีของโต๊ะอ่านหนังสือ ให้เหมาะกับพฤติกรรมการใช้งานก็ลองปรับตามนี้กันได้เลยนะ

4. เลือกเพลงที่ใช่

หลายคนอาจจะเปิดเพลงในคอมพิวเตอร์ ไอแพด โทรศัพท์มือถือ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ บนโต๊ะหนังสือด้วย โดยในช่วง ที่เราต้องการสมาธิ ถ้าฟังเพลงที่มีเนื้อร้องอาจจะทำให้เราโฟกัส ไปที่เนื้อหาหรือความหมายของ เพลงมากกว่าเนื้อหาในหนังสือ หรือการบ้านที่ทำอยู่ ดังนั้น การฟังเพลงบรรเลง เลยเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนที่อ่านเงียบ ๆ แล้วรู้สึกง่วง ๆ โดยเรามีเทคนิคการเลือกเพลงมาฝากดังนี้

  • เพลงคลาสสิก : แม้ว่าหลายคนอาจะเคยได้ยิน การทดลองของคุณ Francis Rauscher เรื่องความฉลาด กับการฟังเพลงของโมซาร์ด (Mozart) ซึ่งถูกตีความผิดเพี้ยนไปว่าช่วยให้คนฟังฉลาดรอบด้าน แต่จริง ๆ แล้วการทดลองนี้พูดถึงเฉพาะสติปัญญาในเชิงมิติสัมพันธ์ (spatial intelligence) เช่น การมองรูปร่าง รูปทรงของสิ่งต่าง ๆ หรือการแก้โจทย์ปัญหา ดังนั้นถ้าเพื่อน ๆ ทำการบ้านหรืออ่านหนังสือที่ต้องอาศัยทักษะด้านมิติสัมพันธ์นี้ การเปิดเพลงคลาสสิกคลอไป ก็น่าจะช่วยให้เรามีสมาธิได้มากขึ้นเหมือนกัน
  • เสียงธรรมชาติ: แต่ถ้าใครไม่ใช่สายเพลงคลาสสิก ก็มีงานวิจัยที่บอกว่า เสียงธรรมชาตินั้น ช่วยให้เรามีสมาธิ และดีต่อกระบวนการคิดของเราด้วย เช่น เสียงฝน เสียงคลื่น เสียงน้ำไหล ที่มีให้เราเปิดฟังในยูทูบเยอะแยะเลย
  • เพลงที่มีจังหวะระหว่าง 50-80 ครั้งต่อนาที : นอกจาก ประเภทของเพลงที่ทำให้เราโฟกัสกับสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้นแล้ว จังหวะก็เกี่ยวข้องด้วยนะเออ โดยเฉพาะเพลงที่มีจังหวะระหว่าง 50-80 ครั้งต่อนาที (beats per minute) นั้นช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และทำให้ เกิดโมเมนต์ยูเรก้าขึ้นมาได้ โดยเพื่อน ๆ สามารถคลิกเขาไปฟังได้ในเพลย์ลิสต์นี้เลย

5. กลิ่นช่วยกระตุ้นความทรงจำ

บนโต๊ะหนังสือ นอกจากอุปกรณ์การเรียนแล้ว เรายังสามารถจุดเทียนหอม ใช้น้ำมันหอมระเหย หรือวางดอกไม้ที่มีกลิ่นมาไว้บนโต๊ะ เพื่อเป็นตัวช่วยสร้างบรรยากาศ ให้เหมาะกับการอ่านหนังสือด้วย เช่น

  • กลิ่นลาเวนเดอร์ : ช่วยให้เรารู้สึกสงบ มีสมาธิ โฟกัสกับสิ่งต่าง ๆ ได้นานขึ้น เหมาะกับการอ่านหนังสือที่ต้องใช้เวลาทำความเข้าใจบทเรียนต่าง ๆ หรือการทำโจทย์ที่ต้องอาศัยการจดจ่อนาน ๆ
  • กลิ่นโรสแมร์รี่ : ช่วยเรื่องกระตุ้นให้เราจดจำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะความจำระยะสั้นเหมาะกับวันที่เราอยากจะท่องศัพท์หรืออ่านวิชาที่ต้องจำเยอะ ๆ
  • กลิ่นเลมอน: ช่วยเพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจและช่วยเราทำสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมาะกับวันที่อยากจะทำการบ้าน ทำโจทย์ ที่ต้องอาศัยความแอคทีฟหน่อย ๆ
  • กลิ่นเปปเปอร์มินต์: ช่วยให้เรารู้สึกตื่นตัว จดจำสิ่งต่าง ๆ ได้อยากแม่นยำมากขึ้น แถมยังเหมาะกับงานที่ต้องใช้สมาธินาน ๆ อีกด้วย
  • กลิ่นกุหลาบ: เหมาะกับวันที่เฟล ๆ จากการเรียน (ใจพังแต่ยังต้องอ่านหนังสือต่อ) เพราะช่วยลดความวิตกังกล ความเศร้า หรืออารมณ์ทางลบได้

กลิ่นช่วยกระตุ้นความทรงจำ

อ่านเพิ่มเติม :แบบบ้านVillas Phuket รีวิวบ้าน phuket property บ้านเดี่ยว POOL VILLA บ้านจัดสรร PHUKET VILLA

อ่านบทความที่น่าสนใจ : ขายวิลล่าภูเก็ต ขายบ้านภูเก็ต invest in phuket property phuket villa for sale