บ้านสไตล์คันทรี่ ยุโรป

บ้านสไตล์คันทรี่ ยุโรป

บ้านสไตล์คันทรี่ ยุโรป บ้านในฝันของผู้ที่รักชนบท

บ้านสไตล์คันทรี่ ยุโรป

บ้านสไตล์คันทรี่ ยุโรป เปรียบเสมือนบ้านในฝันของผู้ที่รักชนบท ความงามแห่งธรรมชาติ ที่ผสานกัน อยู่ในสายลม อ่อนๆ กลิ่นหอมของไอดินซึ่งได้สูญหายไปจากชีวิตประจำวันของ คนกรุงนานมาแล้วบ้านสไตล์คันทรีสะท้อน ความมีชีวิตชีวา ที่เกิดขึ้นจาก ธรรมชาติจากผืนแผ่นดินที่เป็น ต้นกำเนิด ของต้นไม้ทุกต้น ดอกไม้ทุกดอกต้นน้ำลำธารที่อุดมไปด้วยปลาและพันธุ์ไม้น้ำซึ่ง ช่วยสร้างความสมดุลย์ให้กับ ชีวิตธรรมชาติเสน่ห์อันมิได้ปรุงแต่งแบบธรรมชาติรูปแปลงที่ดิน

รูปทรงของบ้านสไตล์คันทรี

ยากที่เราจะกำหนดให้แน่ชัดลงไปได้เนื่องจากมีความแตกต่างกันไปตามสภาพที่ตั้ง ของบ้านอันเป็นลักษณะเฉพาะ ที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้นมา ในแต่ละแห่ง และในแต่ละประเทศซึ่งมีความแตกต่างกันทั้งภูมิอากาศภูมิประเทศ ซึ่งมีความสวยงามอุดมสมบูรณ์แตกต่างกันไปเช่น บ้านทางแถบยุโรปตอนเหนือ ซึ่งมีหิมะปกคลุมรูปทรงหลังคาก็จะลาดชันและมีช่องหน้าต่างน้อยส่วนบ้านคันทรีใ นอังกฤษและฝรั่งเศสซึ่ง ภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงถึง 4 ฤดูกาลก็จะ สะท้อน โครงการบ้าน ถึงความงามแห่งฤดูกาล ผลิ ร้อน ร่วง หนาว ด้วยการประดับประดาที่ช่อง หน้าต่าง แสดงถึงการต้อนรับฤดูกาลที่ผันเปลี่ยนเวียนมาในรอบปี รูปทรงหลังคาก็บ่งถึ งสภาพอากาศที่มีทั้งหิมะและฝน

บ้านสไตล์คันทรี สะท้อนภาพการดำรงชีวิตที่อิงอยู่กับธรรมชาติ รูปลักษณ์ของบ้านสะท้อนถึงบรรยากาศของป่าเขาลำเนาไพร อันเป็นที่ตั้งของบ้าน นับจากวัสดุที่ใช้ทำตัวบ้าน มักจะเป็นวัสดุที่หาได้ง่ายในแถบนั้น เช่น ไม้ หิน อิฐ ฝาบ้านมักจะมีลวดลายประดับที่สะท้อนถึง ความงามของพืชพันธุ์ธรรมชาติ บริเวณ เช่น แกะสลักเป็นลายดอกไม้ ลูกไม้ต่างๆ ตลอดจนถึงลวดลายบนผืนผ้าม่านถึงแม้ว่าฝีมือเชิงช่างจะไม่ประณีตด้วย ข้อจำกัดทางด้านเครื่องไม้เครื่องมือ แต่กลับได้สัมผัสที่บ่งบอกถึงความมีเสน่ห์อันมิได้ ปรุงแต่แบบธรรมชาติ ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ทำให้หลายต่อหลายคน หลงรักบ้านคันทรีอย่าง ถอนตัวไม่ขึ้นทีเดียวออกแบบบ้าน

บ้านสไตล์คันทรี่ ยุโรป

บ้านสไตล์โรงนาโมเดิร์นสีดำ

ในชีวิตเรานั้นบางคนมีบ้านเพียงหลังเดียว แต่ถ้าเป็นไปได้การสร้างบ้านหลังที่ 2 สำหรับเป็นที่พักผ่อนกลางธรรมชาติคงเป็นความสุขที่เติมเต็มชีวิตได้ไม่น้อย เจ้าของ Elemental House หลังนี้ก็เช่นกัน เมื่อได้เห็นพื้นที่ชนบทกลางเนินเขาที่ล้อมรอบด้วยป่าพร้อมทิวทัศน์ Green Mountain อันแสนสวยงาม ทำให้นึกภาพบ้านที่ล้อมรอบด้วยธรรมชาติสามารถพักผ่อนกับครอบครัวและเพื่อนฝูงได้ขึ้นมาทันที ตัวเจ้าของนั้นแต่งงานในเวอร์มอนต์และกลับมาทุกฤดูร้อน เมื่อครอบครัวเติบโตขึ้นจึงตัดสินใจสร้างบ้านอยู่ที่นี่เพื่อจะได้ใช้เวลามากขึ้นในภูมิประเทศที่พวกเขารัก โครงการบ้าน

จากภาพที่จิตนาการเอาไว้นำไปสู่การสร้างบ้านไร่ในเวอร์มอนต์ ขนาด 418 ตารางเมตร แนวทางของสถาปนิกคือการใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นองค์ประกอบท่ามกลางภูมิทัศน์ จึงเลือกสร้างอาคารหน้าจั่วสูงแบบโรงนาหุ้มด้วยผนังไม้ที่ผ่านการถนอมด้วยเปลวไฟแบบ Shou Sugi Ban ของญี่ปุ่น ให้สีดำที่ยังมองเห็น Texture และหลังคาเมทัลชีทสีดำสนิท ให้อารมณ์แบบโรงนาพื้นถิ่นแต่มีเส้นสายเฉียบคมตามแบบสมัยใหม่ แผนผังอาคารวางเป็นรูปตัว L ซ้อนขึ้นเนินไปตามลัษณะภูมิประเทศที่หลากหลาย หลังคาลดหลั่น 3 ระดับดูมีมิติ รอบบ้านปูด้วยผืนหญ้าเขียวสดเหมือนพรมธรรมชาติ ทำให้งานสถาปัตย์ผสานเข้ากับภูมิทัศน์อย่างสมบูรณ์

แรงบันดาลใจในการออกแบบบ้าน

จากความหลากหลายของระดับพื้นที่และแนวป่าไม้ สถาปนิกเลือกใช้เส้นเรขาคณิตเป็นตัวช่วยให้บ้านมีความรู้สึกเป็นธรรมชาติและมีพลัง นอกจากนี้ยังมีความลึกลับอีกเล็กน้อย เพราะพื้นที่บ้านมีทั้งส่วนที่ปิดเป็นส่วนตัวและเปิดเผยโปร่งโล่ง สร้างความต่อเนื่องกับภูมิทัศน์ให้เกิดความปราณีต องค์ประกอบบ้านจึงไม่ได้แสดงตัวทั้งหมดในคราวเดียว แต่จะค่อยๆ เปิดตัวตนผ่านชุดของกรอบบ้านสีดำ ใส่วัสดุประตูหน้าต่างเป็นกระจกให้เห็นภายในแบบแวบ ๆ หากมองจากภายในจะให้มุมมองผ่านกรอบสีดำ

บ้านสไตล์คันทรี่ ยุโรป

แม้ผนังภายนอกจะเป็นสีดำสนิททั้งหมด แต่ภายในกลับไม่ได้ต้องการความรู้สึกเข้มสง่ามงาม เพราะเป็นพื้นที่ใช้ชีวิตที่ต้องการความผ่อนคลายและอบอุ่น ทำให้สถาปนิกปรับเปลี่ยนมาใช้งานไม้ธรรมชาติโทนสีอ่อน ๆ อย่างประตูไม้โอ้ตบานใหญ่ ไม้อัดเบิร์ช แล้วตัดเส้นสายตาด้วยสีดำ  แต่จากนั้นก็จะค่อย ๆ เปิดขึ้นอย่างเต็มตาบนทางลงเขา เพื่อให้มองเห็นทิวทัศน์และแสงได้ทั้งสามระดับของบ้าน เมื่อได้เข้าอยู่ในบ้านนี้จะรู้สึกได้ทันทีว่าวิสัยทัศน์เปลี่ยนไป พร้อมกับการสูดอากาศหายใจที่ไม่เหมือนเดิม

ภายในแต่ละชั้นเต็มไปด้วยพื้นที่มีประโยชน์ใช้สอยที่ใช้งานได้จริง พร้อมๆ กับสร้างภาพที่น่าสนใจและมุมมองที่น่าทึ่งและไม่เหมือนใครจากแต่ละห้อง โทนสีทั้งหมดมีเนื้อสัมผัสและโทนสีที่เน้นความงามตามธรรมชาติ เพื่อคงความรู้สึกใกล้เคียงกับบรรยากาศของป่า ในขณะที่เผยตัวตนความไม่สมบูรณ์จาก Texture และร่องรอยจริงๆ ของไม้ กระเบื้องทำมือ เหล็กดำ คอนกรีต และหิน บันไดเหล็กออฟเซ็ต ที่เชื่อมต่อสามระดับเป็นจุดศูนย์กลางภายในซึ่งราวบันไดราวกับเล่นกับความสวยงามของความไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดการเคลื่อนไหวที่สงบและอ่อนโยนvillage

บันไดเหล็กและไม้โอ๊คที่ให้เส้นสายสวยงาม ท่ามกลางความรู้สึกเรียบง่าย ช่วยนำทางขึ้นลงระหว่างชั้นตั้งแต่ห้องใต้ดินถึงชั้นบนสุด โดยในแต่ละช่วงบันไดจะมีช่องเปิดรับทั้งแสงธรรมชาติและวิวด้านข้าง ทำให้ปลอดภัยและเข้าถึงธรรมชาติได้ในทุกก้าวที่เดินขึ้น-ลงเพดานในหลายบห้องกรุด้วยระแนงไม้ Hemlock สีโทนอ่อนลายสวยธรรมชาติ ภายในเป็นการผสมผสานระหว่างห้องพักผ่อนใช้ชีวิตที่สว่างไสว อบอุ่นเต็มไปด้วยแสง และความทันสมัยแบบมินิมอล โครงการบ้าน ไม่ตกแต่งแบบหรูหราแต่เน้นที่ความสบายตา หน้าต่างและประตูแบบยุโรปขนาดใหญ่พร้อมกับเพดานไม้ที่ต่อเนื่องไปจนถึงภายนอก ช่วยสร้างประสบการณ์การใช้ชีวิตในร่มและกลางแจ้งให้รู้สึกถึงความต่อเนื่องกันเป็นผืนเดียว ในทุกห้องไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอน หรือห้องน้ำจะมีช่องเปิดกรอบสีดำอย่างน้อย 1 บาน ที่จะมองเห็นภูมิทัศน์ภายนอก มองเผินๆ เหมือนกรอบรูปที่นำภาพธรรมชาติเข้ามาเก็บไว้ในบ้าน ซึ่งทุกมุมผ่านการคิดมาอย่างดี

แต่ละภูมิภาคของโลกจะมีลักษณะภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ที่แตกต่างกัน จึงมีแนวคิดในการสร้างบ้านให้สอดคล้องกับปัจจัยแวดล้อม เพื่อให้อยู่อาศัยได้สบายที่าุด แต่แบบบ้านเขตร้อนกับบ้านเขตหนาวจะมีความแตกต่างกันในรายละเอียด หากเราชื่นชอบบ้านเขตหนาวอย่างบ้านโรงนาจั่วสูง ไม่มีกันสาด ไม่มีชายคา จะไม่เหมาะกับเขตร้อนชื้นที่ฝนตกชุก ทำให้ผนังได้รับความเสียหายได้ง่าย ต้องนำแบบบ้านมาปรึกษากับสถาปนิก โดยอาจ